- Liquidity Provider (LP) คืออะไร?
- โบรกเกอร์ Forex ปลีกคืออะไร?
- ผู้ให้บริการสภาพคล่องเทียบกับโบรกเกอร์รายย่อย – ความแตกต่างที่สำคัญ
- ตารางเปรียบเทียบ
- เหตุใด IB จึงชอบโบรกเกอร์ค้าปลีกมากกว่า?
- อะไรดีกว่า?
- คำถามที่พบบ่อย
- บทสรุป
Liquidity Provider (LP) คืออะไร?
ผู้ให้บริการสภาพคล่อง (LP) คือโบรกเกอร์สถาบันที่เชื่อมต่อโดยตรงกับตลาดระหว่างธนาคาร บทบาทของพวกเขาคือการจัดหาสภาพคล่องระดับสูงและราคาดิบให้กับเทรดเดอร์รายใหญ่ เช่น ธนาคาร กองทุนป้องกันความเสี่ยง และบริษัทหลักทรัพย์
คุณสมบัติหลักของผู้ให้บริการสภาพคล่อง
- สเปรดดิบ: ต่ำถึง 0.0 pips
- เลเวอเรจ: จำกัดสูงสุด 1:200
- ไม่มีการส่งเสริมการขาย: LPs ไม่เสนอโบนัสหรือรางวัล
- ความต้องการเงินทุนสูง: ต้องมีเงินฝากจำนวนมากเพื่อการซื้อขาย
- กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ประกอบการสถาบันและมืออาชีพ
โบรกเกอร์ Forex ปลีกคืออะไร?
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายย่อย จะปรับตลาดฟอเร็กซ์ให้เหมาะสมกับเทรดเดอร์รายบุคคล โดยเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง แต่ปรับเงื่อนไขเพื่อให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงการซื้อขายได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติหลักของโบรกเกอร์ค้าปลีก
- สเปรดที่กว้างขึ้น: รวมมาร์กอัปเมื่อเทียบกับสเปรด LP
- เลเวอเรจสูง: สูงถึง 1:3000 ง่ายสำหรับเงินฝากจำนวนเล็กน้อย
- โบนัสและโปรโมชั่น: โบนัสต้อนรับ โปรโมชั่นฝากเงิน และรางวัลความภักดี
- โปรแกรมการอ้างอิงและ IB: โอกาสรับค่าคอมมิชชั่นและพันธมิตรที่น่าดึงดูด
- ข้อกำหนดการเข้าต่ำ: ผู้ค้าสามารถเริ่มต้นได้เพียง $10–$15
ผู้ให้บริการสภาพคล่องเทียบกับโบรกเกอร์รายย่อย – ความแตกต่างที่สำคัญ
สเปรดและราคา
- LP: สเปรดดิบที่แคบมากจากตลาดระหว่างธนาคาร
- โบรกเกอร์ค้าปลีก: สเปรดที่ทำเครื่องหมายไว้เพื่อครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงาน
เลเวอเรจที่เสนอ
- LP: สูงสุด 1:200
- โบรกเกอร์ขายปลีก: สูงสุด 1:3000 เหมาะสำหรับผู้ค้ารายย่อย
โบนัสและโปรโมชั่น
- LP: ไม่มี
- โบรกเกอร์ค้าปลีก: ใช่ รวมถึงโบนัสต้อนรับและโครงการความภักดี
โปรแกรมการอ้างอิงและ IB
- LP: ไม่มีโปรแกรมพันธมิตร
- โบรกเกอร์ขายปลีก: โมเดลคอมมิชชั่นที่มีโครงสร้างและการแบ่งปันรายได้
ความต้องการเงินทุน
- LP: สูง เนื่องจากมีเลเวอเรจต่ำและมาร์จิ้นที่เข้มงวด
- โบรกเกอร์ขายปลีก: ต่ำ สามารถเริ่มการซื้อขายด้วยเงินฝากจำนวนเล็กน้อย
การเข้าถึงและประสบการณ์ผู้ใช้
- LP: เน้นด้านเทคนิคและมืออาชีพมากขึ้น เน้นการขายปลีกน้อยลง
- โบรกเกอร์ขายปลีก: เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นพร้อมการออนบอร์ดที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ตารางเปรียบเทียบผู้ให้บริการสภาพคล่องกับโบรกเกอร์รายย่อย
คุณสมบัติ | ผู้ให้บริการสภาพคล่อง (LP) | โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ปลีก |
---|---|---|
การแพร่กระจาย | ดิบ แน่นมาก (0.0 pips) | มาร์กอัป สเปรดที่กว้างขึ้น |
เลเวอเรจ | สูงถึง 1:200 | สูงถึง 1:3000 |
โบนัสและโปรโมชั่น | ไม่มี | ใช่ (โบนัสต้อนรับ, โปรโมชั่นฝากเงิน) |
โปรแกรมอ้างอิง/IB | ไม่มี | ใช่ (ค่าคอมมิชชั่นและการแบ่งปันรายได้) |
ความต้องการเงินทุน | สูง – ต้องมีเงินฝากจำนวนมาก | ต่ำ – เริ่มต้นที่ $10–$15 |
การเข้าถึง | สถาบัน, เป็นมิตรกับผู้ใช้น้อยกว่า | เป็นมิตรกับผู้ขายปลีก, การเริ่มต้นใช้งานที่ง่ายดาย |
กลุ่มเป้าหมาย | กองทุนป้องกันความเสี่ยง บริษัทจัดหาสินทรัพย์ ผู้ค้ามืออาชีพ | ผู้เริ่มต้นและผู้ค้าปลีก |
เหตุใดโบรกเกอร์แนะนำจึงชอบโบรกเกอร์รายย่อยมากกว่า?
โบรกเกอร์แนะนำ (IB) มักไม่ค่อยโปรโมตผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Provider) เนื่องจากผู้ให้บริการแนะนำ (LP) ไม่มีโปรแกรมแนะนำหรือโปรแกรมคอมมิชชั่น อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์รายย่อยมี โครงสร้าง IB ที่น่าสนใจ ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับพาร์ทเนอร์ที่จะแนะนำพวกเขาให้กับเทรดเดอร์รายใหม่
อะไรดีกว่า – ผู้ให้บริการสภาพคล่องหรือโบรกเกอร์ค้าปลีก?
คำตอบขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณในฐานะเทรดเดอร์:
- ผู้ให้บริการสภาพคล่อง: เหมาะที่สุดสำหรับสถาบันหรือผู้ค้าที่มีประสบการณ์ที่มีทุนจำนวนมากที่ต้องการเข้าถึงสเปรดดิบและการดำเนินการระหว่างธนาคารโดยตรง
- โบรกเกอร์ขายปลีก: เหมาะที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ค้ารายย่อยที่ต้องการเงินฝากจำนวนน้อย เลเวอเรจสูง และโบนัส
บทสรุป
ทั้งผู้ให้บริการสภาพคล่องและโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายย่อยต่างมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์ ผู้ให้บริการสภาพคล่องให้บริการเทรดเดอร์มืออาชีพด้วยการเข้าถึงระหว่างธนาคารโดยตรง ขณะที่โบรกเกอร์รายย่อยทำให้การซื้อขายเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยเงินฝากจำนวนน้อย เลเวอเรจสูง และโปรโมชั่น
👉 หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่กำลังมองหาตัวเลือกที่สมดุล แพลตฟอร์มอย่าง EMAR Markets นำเสนอสเปรดที่มีการแข่งขัน เลเวอเรจสูง และการสนับสนุนส่งเสริมการขาย ช่วยให้คุณเริ่มต้นเส้นทางฟอเร็กซ์ได้ง่ายขึ้น
อ่านต่อ: วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ (คู่มือปี 2025)